Vinland Saga, สงครามคนทมิฬ

Vinland Saga, สงครามคนทมิฬ มหากาพย์ไวกิ้งที่เต็มไปด้วยเลือดและศักดิ์ศรี

Vinland Saga, สงครามคนทมิฬ เรื่องราวที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่การต่อสู้เท่านั้น แต่เป็นเรื่องราวของสงครามและความโหดร้ายร่วมกับความหมายของการมีชีวิต เรื่องนี้มีการถ่ายทอดยุคไวกิ้งที่เต็มไปด้วยการเข่นฆ่าและการแย่งชิงอำนาจ ภายในเนื้อเรื่องนั้นก็ยังสะท้อนให้เห็นถึงศักดิ์ศรีและเกียรติของนักรบที่พร้อมจะพลีชีพเพื่ออุดมการณ์ของตัวเอง ภายในเรื่องนั้นจะพูดถึงเด็กหนุ่มชาวไวกิ้ง ธอร์ฟิน ตัวเอกของเรื่องที่เติบโตขึ้นมาในเงาของโศกนาฏกรรม การเดินทางของเขาเต็มไปด้วยสงครามนางเลือดเพื่อต่อสู้เอาชีวิตรอด และการเรียนรู้ว่าความแค้นและความรุนแรงไม่สามารถเติมเต็มชีวิตได้ ทำให้เขานั้นเริ่มมองหาความหมายใหม่ในชีวิต 

ธอร์ฟิน ตัวเอกผู้มีเส้นทางชีวิตสุดขมขื่น

ในมุมมองของตัวเอกนั้นเขาเริ่มต้นจากเด็กน้อยไร้เดียงสา แต่เกิดจุดเปลี่ยนในชีวิตเมื่อพ่อถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตาทำให้เขากลายเป็นเด็กที่มีไฟแค้นอยู่ในหัวใจเต็มกำลัง ในเส้นทางชีวิตของเขานั้นเดินทางไปด้วยความแค้นจนสูญเสียความเป็นมนุษย์ไปเกือบทั้งหมด แต่เมื่อเขาได้เติบโตขึ้นก็ทำให้เรียนรู้ว่าความรุนแรงนั้นไม่ใช่ความสุข ทำให้เด็กหนุ่มคนนี้นั้นเริ่มต้นที่จะเดินสู่เส้นทางใหม่แห่งความสงบสุขที่แท้จริง 

บทบาทของแอสเกลัดใน Vinland Saga, สงครามคนทมิฬ

ภายในเรื่องนั้นจะมีตัวละครที่ชื่อว่า แอสเกลัด โดยตัวละคร ตัวนี้นั้นมีเสน่ห์มากเพราะเขาคือคนที่ฆ่าพ่อของธอร์ฟิน และในขณะเดียวกันนั้นเขาก็ทำหน้าที่เป็นครูในเงามืดให้กับตัวเอกของเรื่อง บุคลิกของเขาเป็นคนฉลาดเจ้าเล่ห์ บุคลิกของเขาเป็นคนฉลาดเจ้าเล่ห์ ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนี้จึงเต็มไปด้วยความเกลียดชังผสมกับความเคารพซึ่งก็กายเป็นคู่ที่น่าสนใจ 

ความสมจริงของสงครามและการเดินเรือไวกิ้ง

ทางด้านของฉากการต่อสู้ในเรื่องนั้นจะเต็มไปด้วยความโหดร้าย เลือด ความดิบ แบบสมจริง นอกจากนี้แล้วรายละเอียดของเรือไวกิ้งนั้นก็ได้มีการนำเอากลยุทธ์การรบในการบุกปล้นหมู่บ้านภายในเรื่องมาจากประวัติศาสตร์จริง ถึงแม้ว่าจะมีการเสริมเติมแต่งให้เพิ่มความบันเทิงมากขึ้นแต่ก็ยังคงสะท้อนความจริงในยุคไวกิ้งสมัยนั้นได้เป็นอย่างดี 

เหตุการณ์ประวัติศาสตร์จริงที่ปรากฏในเรื่อง

ในส่วนของเหตุการณ์จริงที่ปรากฏในประวัติศาสตร์และเกิดขึ้นในเรื่องนี้ก็คือ สงครามเดนมาร์ก–อังกฤษ ในศตวรรษที่ 11 พระเจ้าสเวน และเจ้าชายคานิวท์ (Canute) ซึ่งเป็นกษัตริย์จริงของเดนมาร์กและอังกฤษ เรียกได้ว่าผู้เขียนได้มีการผสมประวัติศาสตร์จริงเข้าไปกับการแต่งเรื่องทำให้มีทั้งความน่าเชื่อถือและความบันเทิงไปพร้อมๆกัน 

ทำไม Vinland Saga, สงครามคนทมิฬ ถึงเป็นที่รักของแฟนการ์ตูนประวัติศาสตร์


สาเหตุที่ทำให้เรื่องนี้นั้นเป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆการ์ตูนประวัติศาสตร์นั่นก็เป็นเพราะว่า การเล่าเรื่องนั้นเป็นไปอย่างจริงจังและเหมาะสม ไม่ใช่เพียงแค่การต่อสู้เท่านั้นแต่เป็นการตั้งคำถามในการใช้ชีวิต ตัวละครแต่ละตัวนั้นมีมิติไม่เพียงแค่มีแต่ด้านเดียวเท่านั้นแต่มีทั้งดีและเลวเพราะว่าทุกคนนั้นมีเหตุผลในการกระทำ ภายในเรื่องได้มีการใส่รายละเอียดทางประวัติศาสตร์ที่เข้มข้นทำให้เหมือนเราได้ดูและเรียนรู้ยุคไวกิ้งไปในตัวผ่านการ์ตูนเรื่องนี้ ทางด้านของงานภาพและซาวด์ประกอบนั้นก็มีความเหมาะสมทำให้ผู้ชมนั้นรู้สึกเหมือนอยู่ในสมรภูมิที่แท้จริง 

แนะนำ 3 ฉากในเรื่องที่สำคัญ 

โดยในการ์ตูนเรื่องนี้นั้นก็มีความเข้มข้นและมีฉากที่น่าสนใจหลายฉาก โดยเราได้คัดเอา 3 ฉากที่สำคัญและเชื่อว่าจะตราตรึงใจผู้ชมได้เป็นอย่างดีดังต่อไปนี้ 

  • ฉากการตายของธอร์ส สำหรับฉากนี้นั้นต้องบอกว่าเป็นฉากสำคัญมากๆเพราะเป็นจุดเริ่มต้นของสุขกันนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่ถูกหลอกให้ออกมาต่อสู้และถูกล้อมจนหนีไม่พ้น ฉากนี้แสดงให้เห็นถึงการเสียสละชีวิตของเขาเพื่อที่จะปกป้องลูกชายและลูกเรือของตนเอง ซึ่งเหตุการณ์นี้นั้นสร้างบาดแผลในใจให้กับลูกชายซึ่งเป็นตัวหลักของเรื่อง และเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด 
  • การดวลของธอร์ฟินกับแอสเกลัด สำหรับฉากนี้นั้นเมื่อตัวหลักเติบโตขึ้นก็ติดตามแก้แค้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าซึ่งในทุกครั้งนั้นเขาก็ยังไม่สามารถที่จะเอาชนะได้ เพราะมีความโกรธอยู่ในตัวซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่แปลกประหลาดระหว่างศัตรูทั้งสองคนที่เป็นเหมือนเป้าหมายที่ต้องฆ่าและเป็นครูที่ฝึกสอนการอยู่รอดไปพร้อมๆกัน 
  • การตัดสินใจของแอสเกลัด จากนี้แสดงให้เห็นถึงจุดพลิกผ่านทางการเมืองในเรื่องที่เป็นฉากสะเทือนอารมณ์เพราะเป็นจุดจบของตัวละครที่สำคัญอีก 1 คนและเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของตัวเองในเรื่องที่ทำให้เรื่องราวนั้นมีการเปลี่ยนแปลงจากการล้างแค้นไปสู่การตามหาความสุขของชีวิตที่แท้จริง 

สไตล์ของเรื่อง Vinland Saga, สงครามคนทมิฬ

เนื้อเรื่องนั้นจะมาในสไตล์ที่มีความเข้มข้นมีฉากที่รุนแรงและสงครามน้องเลือดต่างๆ การตายนั้นเป็นสิ่งที่สะเทือนใจแต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความสำคัญของเรื่องคือปรัชญาและการพัฒนาตัวละครที่มีมากกว่าการต่อสู้ ถือว่าเป็นการ์ตูนอีกหนึ่งเรื่องที่อยากให้ศึกษาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ร่วมด้วยเพื่อที่จะช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับชมมากยิ่งขึ้น โดยเนื้อเรื่องนั้นดำเนินไปค่อนข้างช้าแต่ทุกตอนนั้นมีความหมายเพราะฉะนั้นควรที่จะต้องมีเวลาในการรับชมพอสมควร

Similar Posts